ตะกรุดพระลักษณ์หน้าทอง รุ่นแรก หมายเลข ๒๐๔๑ หลวงปู่กาหลง เขี้ยวแก้ว วัดเขาแหลม จังหวัดสระแก้ว รุ่นครอบเศียรพระลักษณ์ 2549

หากจะบอกว่าเป็นวิชานะหน้าทองตำรับหลวงปู่กาหลง เขี้ยวแก้ว เนื่องจากวิชานี้เป็นวิชามหาเสน่ห์ที่หลวงปู่ได้รับการถ่ายทอดมาจากครูชิดครูโขนละครที่มีวิชาอาคมในช่วงสมัยรัชกาลที่ 6 วิชาของท่านครูชิดที่ถ่ายทอดมาสู่หลวงปู่กาหลงนี้ถูกปิดบังมานาน แม้จะรู้ก็รู้เฉพาะศิษย์ใกล้ชิดของหลวงปู่เท่านั้นหาได้เป็นที่รู้จักของสาธารณชนทั่วไปไม่ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2549 ทางคณะศิษย์เห็นว่าในปีดังกล่าวนี้มีฤกษ์มหามงคล คือในวันจันทร์ที่ 9 กรกฎาคม เป็นวันที่พระจันทร์เต็มดวงพอดี ซึ่งจะหาวันจันทร์ที่ตรงกับวันเพ็ญเต็มดวงเช่นนี้ได้ยากมาก ดังนั้นหลวงปู่กาหลงและคณะศิษย์จึงเห็นควรที่จะจัดพิธีครอบครูพระลักษณ์หน้าทองอันเป็นพิธีกรรมที่มีมาแต่โบราณ ทั้งนี้จะได้ทำการปลุกเสกเครื่องรางชุดพระลักษณ์หน้าทอง อีกประการหนึ่ง ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าการปลุกเสกในวันมหามงคล และได้กำลังวันซึ่งทรงอิทธิพลอย่างยิ่งทางมหาเสน่ห์เมตตามหานิยม

 

"พระลักษณ์หน้าทอง รุ่นครอบเศียรพระลักษณ์ 49" สืบสานตำนานสุดยอดมหามนต์เสน่ห์ชั้นสูง ตำรับสำนักพระราชวังสมัยรัชกาลที่ ๖ ด้วยพลังอาถรรพ์แห่งวิชา จะไปสถานที่แห่งใดก็มีแต่คนนิยมชมชอบมีประสบการณ์มหาเสน่ห์ และอธิษฐานเกิดผลสำเร็จสมตามความปรารถนามามากแล้วสุดยอดเสน่ห์พารวย

 

หลวงปู่กาหลง เขี้ยวแก้ว อายุ ๙๐ ปี วัดเขาแหลม อ.วังสมบูรณ์จ.สระแก้ว พระเถราจารย์ผู้มีฤทธิ์อำนาจวาจา ประกาศิตด้วยเขี้ยวแก้วกลางเพดานปาก

 

คาถาบูชา ตั้งนะโม ๓ จบ โอมพระพักตร์ พระลักษณ์หน้าทอง สุวรรณผุดผ่อง หน้าทองพระพักตร์ชายเห็นชายรัก สาวเห็นสาวรัก ผู้ใหญ่เห็นก็รักพากันโสมนัส ใครเห็นใครก็รัก รู้จักกูถ้วนหน้าไม่ว่าใคร นะจับจิตโมจับใจ พุทโยงใย ธาหลงใหล ยะร้องไห้มาหากู ปะสะสัมมะปติฏฐามิ.

 

โอมพระแลงเป็นแสงพระลักษณ์ พระฤาษีจับปากกา พระลักษณ์จับหน้า จับตาสวาหะ นะ เห็นหน้ากูอยู่ไม่ได้ โมร้องไห้ครวญคราง พุทกอดไว้มิใคร่จะวาง ธาครวญครางสะอื้นให้ ยะหลงใหลในจิต หญิงใดชายใดได้เพ่งพิศเห็นหน้ากูก็อยู่มิได้ร้องไห้มาหากู โอมสิทธิแก่กูสวาหะ เอหิชัยยะ เอหิสัพเพชนา พหูชนาเอหิ พร้อมกับนำวัตถุมงคลวนที่ใบหน้า ๓ รอบ โดยวนตามเข็มนาฬิกา เป็นมหาเสน่ห์ มหาเมตตา มหานิยม มีสง่าราศี เสริมวาสนาชะตาชีวิตบุญบารมีดีนักแล ค้าขายประกอบกิจการสิ่งใดก็สำเร็จสมความปรารถนาทุกประการ

 

พระคาถานี้ ภาวนา ๓ จบ พร้อมกับนำเศียรพระลักษณ์หรือตะกรุดวนที่ใบหน้า 3 รอบ โดยวนตามทิศทางตามเข็มนาฬิกา (ทักษิณาวัตร) เป็นมหาเสน่ห์ มหาเมตตา มหานิยม มีสง่าราศรี เสริมวาสนาชะตาชีวิตบุญบารมีดีนักแล ค้าขายดีจะประกอบกิจการสิ่งใดก็สำเร็จสมความปรารถนาทุกประการ 

 

วิชาพระลักษณ์หน้าทองนี้นับว่าล้ำลึกพิศดารอาถรรพณ์มาก เพราะถือเคล็ดแรงเสน่ห์จากพระลักษณ์ ซึ่งอวตารมาจากศรีสังข์ (อาวุธพระนารายณ์) และพระยาอนันตนาคราชที่เป็นบัลลังค์อาสน์ ของพระนารายณ์เข้าสู่ครรภ์ของนางสมุทชา ในวันถือกำเนิดพระอินทร์พร้อมด้วยฝูงเทพยดา ช่วยกันประโคมฆ้องชัย แตร สังข์ ดุริยางค์ดนตรี เป็นงานมโหฬารมาก

 

สำหรับสายวิชาพระลักษณ์หน้าทองนี้หลวงปู่กาหลงท่านได้รับการครอบครองครูวิชานี้จากครูชิตซึ่งเป็นครูโขนในสำนักพระราชวัง สมัยรัชกาลที่ ๖ เมื่อประมาณปี 2500 โดยในครั้งนั้นหลวงปู่ท่านบอกว่า จะต้องจัดพิธีบวงสรวง ครอบครูมอบตำราครูโขน วางเครื่องสังเวย บายศรี ใช้พื้นที่ขนาดกว้าง 6 ห้องยาวรี 9 ห้องหากเทียบสัดส่วนแล้ว 1 ห้องเท่ากับ 4 เมตร ดังนั้นจึงใช้พื้นที่วางบายศรีเครื่องสังเวยก็นับว่าใหญ่อลังการมากพอสมควร จึงจะได้รับมอบครอบวิชาครูโขนมาได้ วิชาพระลักษณ์หน้าทองแต่เดิมเป็นวิชาที่ใช้อยู่ในวงการโขนละคร เชื่อกันว่าใครได้ครอบได้มีไว้จะเป็นเมตตามหานิยมชั้นหนึ่งแก่ตน เข้าหาผู้ใดก็ไม่รังเกียจ จะแสดงละครร้องรำก็เป็นที่ประทับใจแก่คนทั้งหลาย แต่วิชานี้จะหาครูบาอาจารย์เก่งๆ จัดสร้างได้ยากมาก เพราะวิชานี้หวงแหนปกปิดกันมานาน สำหรับวิชาพระลักษณ์หน้าทองที่หลวงปู่กาหลงท่านได้ร่ำเรียนมาถือว่าเป็นวิชาที่มาจากสายในวังโดยตรง ผู้ที่บูชาไปแล้วย่อมได้รับอำนาจแห่งเสน่ห์เมตตามหานิยมมีวาสนาดีมีคนอุปถัมภ์ค้ำชู บังเกิดความเจริญรุ่งเรืองในชีวิตอย่างสูงสุด ความอัศจรรย์ของวิชาพระลักษณ์หน้าทองจึงนับว่าสูงส่งยิ่งนัก ด้วยเหตุที่พระลักษณ์มีสีกายเป็นทองคำ องค์พระลักษณ์จึงมีลักษณะเป็นผู้ที่มีเสน่ห์เมตตามหานิยมสูง ประดุจพระจันทร์เต็มดวงยามเที่ยงคืน ที่เยือกเย็นเป็นเสน่ห์อันสุดประมาณมิได้

 

วัตถุมงคลชุดพระลักษณ์หน้าทองนี้หลวงปู่กาหลงท่านได้กล่าวไว้ว่า "แรงมาก" แรงในที่นี้ก็คือ เสน่ห์แรง เมตตามหานิยมแรงและยังปกป้องคุ้มครองป้องกันภัยได้ดีเพราะอำนาจของเมตตานั้นเป็นอำนาจที่รักษาคุ้มครองให้พ้นภัยในตัวอยู่แล้ว โชคลาภก็มีมาไม่ขาด ทั้งนี้ก็ให้หมั่นท่องพระคาถาเป็นประจำทุกๆ วัน เช้าเย็นอย่าได้ขาด อาราธนาติดตัวเป็นประจำ ก่อนออกจากบ้านไปไหนไปพบใครก็เอาวัตถุมงคลนี้วนที่ใบหน้า ระลึกว่า ดุจเราได้ครอบเศียรพระลักษณ์มีพระพักตร์ของพระลักษณ์อยู่บนใบหน้าเรา ให้ยิ้มแย้มแจ่มใสเข้าไว้ และมีเคล็ดลับอีกประการหนึ่งก็คือ ขณะที่ท่องคาถาให้ระลึกนึกถึงใบหน้าของผู้ที่เราจะไปหา ตัวเราจะเป็นเสน่ห์แก่บุคคลนั้น เมื่อพบเราเขาจะเอ็นดูเราเสมือน 1 ญาติมิตรเคยชิดใกล้ หรือหากจะอาราธนานำวัตถุมงคลชุดพระลักษณ์นี้ลงทำน้ำมนต์ ท่องพระคาถาเอาไว้ลูบหน้าเป็นเสน่ห์ก็ได้ หรือจะใช้เสกแป้งผัดหน้าโดยเอาวัตถุมงคลวางลงบนแป้งที่ทาหน้าและสวดพระคาถา จากนั้นนำแป้งลูบหน้าจากปลายคางขึ้นบนหน้าผาก 3 ครั้ง จะเป็นเสน่ห์เมตตามหานิยมอย่างยิ่ง ผู้ใดหมั่นกราบไหว้บูชา หมั่นท่องคาถา ทุกเช้าค่ำเป็นประจำทุกวัน ย่อมเป็นที่รักของคนทั้งหลายของโลกหล้า เป็นที่รักของมนุษย์และเทวดา ตลอดทั้งมนุษย์หญิงชาย เจ้านาย ผู้ใหญ่ก็รักใคร่ นับเป็นบุญวาสนาของผู้ที่ได้ครอบครองวัตถุมงคลชุดพระลักษณ์หน้าทองนี้

 

พิธีกรรม 1.พิธีเทวาพิเษกเปิดฤกษ์เศียรพระลักษณ์จันทร์ซ้อนจันทร์ วันจันทร์ที่ 2 เมษายน 50 ขึ้น 15 ค่ำเดือน 5 หลวงปู่กาหลงปลุกเสกเดี่ยว

 

2.พิธีเททองและพุทธาพิเษก ณ วัดเขาแหลม สระแก้ว วันเสาร์ที่ 13 ตุลาคม 50 โดยหลวงปู่กาหลงเป็นประธานพร้อมพระเกจิอาจารย์ 9 รูป

3.พิธีมหาพุทธาพิเษก ณ วัดสุทัศน์ เสาชิงช้า กทม. วันเสาร์ที่ 20 ตุลาคม 50 โดยหลวงปู่กาหลงเป็นประธานพร้อมพระเกจิอาจารย์ 11 รูป

4.พิธีพุทธาพิเษกวันลอยกระทงขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ณ วัดสุทัศน์ กทม.

5.พิธีพุทธาพิเษก ณ วัดสุทัศน์ วันที่ 20 ธันวาคม 50 โดยหลวงปู่กาหลงเป็นประธานพร้อมพระเกจิอาจารย์ 12 รูป

6.พิธีครอบเศียรพระลักษณ์หน้าทอง ณ ศาลาเศรษฐีทอง วัดสุทัศน์ กทม. วันที่ 22 ธันวาคม 50 โดยหลวงปู่กาหลงเป็นประธาน

7.หลวงปู่กาหลงอธิฐานจิตปลุกเสกเดียวตั้งแต่เดือนกรกฏาคม ถึง ธันวาคม