พระสมเด็จกรุวัดลาดบัวขาว พระอาจารย์ชาญณรงค์ อภิชิโต ปี2485 พิมพ์หูบายศรี สุดยอดประสบการณ์ หายาก สภาพสวยแชมป์

 

พระสมเด็จรุ่นแรกวัดลาดบัวขาวปี 2485 มีอุปเท่ห์การใช้มากมายและท่านใส่วิชาทั้งหมดที่เรียนมาจากในดง พระรุ่นนี้ออกแนวไปทางอิทธิฤทธิ์ พระรุ่นสุดท้ายจะออกแนวไปทางบารมีและบุญฤทธิ์ อย่างหนึ่งที่หลวงพ่อแนะนำไว้คือ ท่านลงกันและแก้วิชาไสยดำ การกระทำคุณไสยไว้ครบถ้วน ท่านยังเอาพระสมเด็จวัดลาดบัวขาวไปวางไว้บนหน้าจั่วของศาลาที่แยกสำราญราษฏร์เพื่อแก้เคล็ดวิชาทางไสยเวทย์ และบอกว่าใครที่มีบ้านในตำแหน่งผิดหลัก มีบ้านที่ร้อนรุ่มอยู่ไม่ปกติ หรือจะสร้างบ้านหลังใหม่ ให้นำพระสมเด็จรุ่นนี้ไปเลี่ยมแบบเปิดหน้า(ให้อากาศธาตุสัมผัสพระโดยตรง ได้)และวางไว้บนเสาเอกหรือบนจั่วหลังคา จะคุ้มบ้านหลังนั้นไปชั่วลูกชั่วหลาน ส่วนพระสมเด็จรุ่นสุดท้ายมีอุปเท่ห์การใช้อย่างไร จะมาบอกอีกทีหนึ่งโดยเฉพาะการทำน้ำมนต์

 

หากจะไหว้เฉพาะหลวงพ่ออภิชิโต 

-ธูป 9 เทียนขาว 1 พวงมาลัยดาวเรืองหรือกุหลาบสีชมพู หมากพลู 3 ชุด น้ำสะอาด หากจะบนบานท่าน ใส่เงินลงไป 1 สลึง

 

หากจะไหว้พระอาจารย์ในดงทุกองค์รวมทั้งอาจารย์ใหญ่(หลวงตาดำ)

-ธูป 16 เทียน 1 แพ เทียนขาว 1 คู่ ดอกบัวสีขาว 3 ดอก หมากพลู 7 คำ น้ำสะอาด 1 ที่ เงิน 3 สลึง

 

โลกุตตโร ปัญจะ มหาเถโร อภิชิโต อะหังวันทามิ สัพพะพุทธา สัพพะธรรมมา สัพพะสังฆา อาราธนานัง

 

ช่วงเวลาตีสามของทุกคืนในครั้งที่หลวงพ่ออภิชิโตยังทรงสังขารอยู่ ท่านบอกเสมอว่า เป็นเวลาที่ท่านต้องตะเวณดูความเป็นไปของศิษย์ทุกคนว่าจะไม่มีเภทภัยอันตรายใดๆ จนท่านไม่ค่อยได้พักผ่อนเพียงพอ แม้แต่ปัจจับันนี้ท่านก็ยังทำแบบนั้นอยู่ด้วยกายทิพย์ และบอกว่าเวลาตีสามของย่ำรุ่ง จะเป็นรอยต่อของโลกต่างมิติคนปฏิบัติภาวนาและจิตละเอียด จะได้รับอานิสงค์เต็มที่ จะภาวนาขอพรได้ดีที่สุด และดีที่สุดเมื่อมีสื่อจากอำนาจในดงอยู่กับตัว

 

คุณ ส. เป็นนักธนาคารทำงานอยู่ทางใต้ เป็นนักเขียนดังเรื่องพระเครื่องดีๆที่ลงในหนังสือพระบ่อยๆที่มีคนอ่านรู้จักกันดีและไม่ใช่เซียนพระ ไม่มีอาชีพค้าขายทางนี้แต่นิยมชมชอบพระเครื่องและเรื่องราวลึกลับ นักสะสมสายจตุคามต้องรู้จักท่านดีแน่นอน โดยเฉพาะเป็นคนชุดแรกที่นำจตุคามเข้ามาเผยแพร่ในกรุงเทพตั้งแต่ยังไม่มีคนรู้จักจตุคามองค์ใหญ่ๆ 

 

วันหนึ่งเมื่อสองเดือนก่อนได้รับมอบพระสมเด็จของหลวงพ่ออภิชิโตทั้งรุ่นแรกปี 2485 และรุ่นสุดท้ายปี 2529 ไปจำนวนอย่างละสองสามองค์จากเพื่อนรุ่นอาวุโสในกรุงเทพ ก็นำกลับไปที่ใต้ด้วยโดยไม่ได้รู้เรื่องอะไรมากไปกว่าเป็นของดีอย่างหนึ่ง ซึ่งปัจจุบันนี้ที่นครศรีธรรมราช มีนักปฏิบัติธรรมขั้นสูงผู้หนึ่งเป็นสตรีวัยสูงอายุซึ่งไม่ชอบสุงสิงกับใครแต่ชอบถือศีลปฏิบัติเงียบๆ และคนนครฯเชื่อกันว่าเป็นผู้สื่อกับองค์จตุคามได้จริงแบบไม่ต้องประโคมข่าวเช่นคนก่อนๆ บางครั้งเวลาสตรีท่านนี้เดินไปไหนๆจะมีคนคอยกราบไหว้ประดุจเป็นผู้ทรงศีลก็ไม่ปาน เพราะหลายคนเชื่อและเคยพบว่าท่านนี้มีเงาขององค์จตุคามแฝงอยู่ และเคยแสดงเรื่องเหลือเชื่อหลายครั้งให้คนได้พบเห็น

 

คนที่รู้จักสนิทสนมกับสตรีท่านนี้มักเอาพระเครื่องหรือเครื่องรางที่ได้มาใหม่ๆไปรบกวนสตรีท่านนี้ให้ช่วยตรวจพลังอยู่เนืองๆ ซึ่งผลที่เคยทดลองกันมาก็แม่นยำทั้งสิ้น จนเป็นที่ล่วงรู้กันดีในแวดวงนักนิยมพระทางใต้ โดยนักปฏิบัติท่านนี้จะกำพระไว้ในมือและสวดบริกรรมนิ่งอยู่ชั่วขณะจิต และจะรู้ว่าพระที่นำไปสอบถามนี้ดีทางไหน แรงแค่ไหน แท้หรือปลอม

 

วันหนึ่งคุณ ส.ก็ได้นำเอาพระเนื้อผงสามองค์ของหลวงพ่ออภิชิโตที่ได้รับมาใหม่ ไปสอบถามเช่นที่เคยทำมาบ้างแล้วกับครั้งก่อนๆ องค์แรกที่ยื่นให้เป็นพระสมเด็จรุ่นสุดท้ายปี2529 เมื่อนักปฏิบัติสตรีท่านนี้รับพระไปไว้ในมือ ก็พลิกพระองค์นั้นดูหน้าดูหลังชั่วครู่ก็บอกว่า “พระองค์นี้ผู้เสกกำกับไว้เก่งมากจนไม่น่าเชื่อว่าจะทำได้ขนาดนี้ ทำไว้ได้ดีเหลือเกินและพลังแรงมาก เด่นทางโภคทรัพย์และเมตตาโชคลาภมาก มีพลังหลายอย่างครบถ้วน และ.............” 

 

คุณ ส.ก็ถามว่าทำไมไม่บริกรรมเช่นกับพระองค์อื่นๆที่เคยทำล่ะ? นักปฏิบัติผู้ตรวจพุทธคุณตอบกลับมาว่า พระบางอย่างต้องบริกรรมกำหนดจิตดูพลังที่อยู่ในองค์พระถึงจะรู้ว่าดีอย่างไร แต่กับพระองค์นี้พลังของพระมีอยู่เต็มและแสดงออกมาทันทีอย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องกำหนดจิตตรวจสอบ คุณ ส. จึงนำพระสมเด็จของหลวงพ่ออภิชิโต ที่ฝังพระธาตุอยู่ด้วยให้ตรวจสอบอีกองค์หนึ่ง ท่านรับไว้ในมือมองนิ่งไปชั่วครู่ ก็ได้บอกว่า “พระองค์นี้ผู้เสกเก่งเป็นยอด ทำไว้อย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง พลังแรงครบทุกด้านอย่างน่าแปลกใจ แต่เด่นในบารมีมากที่สุดและพระองค์นี้มีแสงครอบคลุมหลายสีต่างจากพระที่เคยตรวจดูมาก่อน องค์นี้มีสีนับไม่ถ้วนสว่างวูบวาบเต็มไปหมด”

 

เมื่อคุณ ส. นำพระสมเด็จรุ่นแรกปี 2485 วัดลาดบัวขาว ที่องค์พระจะมีขนาดเล็กและสีแตกต่างกว่าพระสมเด็จรุ่นสุดท้ายให้ตรวจดูอีกองค์หนึ่งโดยไม่บอกข้อมูลว่าพระอะไร เพียงจับสัมผัสองค์พระรุ่นแรกเท่านั้น ท่านผู้ตรวจสอบก็บอกทันทีว่า “ ผู้ปลุกเสกพระองค์นี้ก็เป็นคนเดียวกันกับสององค์ที่เพิ่งตรวจเมื่อสักครู่ พระองค์นี้มีดีครบทุกอย่างเหมือนกัน และองค์นี้แรงกว่าในด้านอิทธิฤทธิ์ มีพลังรุนแรงโลดโผนกว่ามาก มีพลังด้านหนุนดวงด้วย ไม่เคยพบพระที่แรงแบบนี้.........”

 

และยังได้สอบถามเพิ่มเติมอีกหลายอย่าง ท้ายสุดคุณ ส.ได้บอกให้นักปฏิบัติท่านนี้ลองกำหนดจิตเข้าไปตรวจดูว่าเกจิองค์ใดบ้างที่กำกับวิชาไว้ในพระเครื่องทั้งสององค์นั้น เพราะคุณ ส.ไม่รู้จักหลวงพ่ออภิชิโต(อ.ชาญณรงค์) เพียงเคยได้ยินและยิ่งสงสัยเรื่องพระในดงเข้าไปอีกเมื่อรู้เรื่องจากเพื่อนที่มอบให้ไป

 

นักปฏิบัติท่านนั้นส่ายหน้าและบอกว่า “ทำไม่ได้แน่นอนเพราะพลังนั้นสูงมาก หากฝืนก้าวล่วงเข้าไปตรวจสอบในพลังอำนาจนั้น อาจต้องกระเด็นกลับหรืออาจจะหมดสติไปสามวัน และไม่แน่ใจว่าจะฟื้นอีกหรือไม่ พลังของผู้เสกกำกับไว้ครอบคลุมและแรงมาก ไม่ว่าใครเสกไว้ก็ตามแต่พระนี้ดีเกินจะบอกสรรพคุณได้ครบ....” 

 

ปัจจุบัน คุณ ส. หันมาเก็บพระผงรุ่นแรกและรุ่นสุดท้ายของหลวงพ่ออภิชิโตขนานใหญ่ จากเดิมที่ไม่เคยรู้จักและสะสมแต่องค์จตุคามรามเทพอย่างเดียว เรื่องนี้สามารถสอบถามคุณ ส.ได้ถึงรายละเอียดต่างๆมากกว่าที่เขียนลงไว้แค่นี้ เป็นเพราะไม่ได้ขออนุญาตไว้ก่อนและมีชื่อคนอื่นเกี่ยวข้องด้วยจึงเล่าไว้พอเข้าใจได้สั้นๆแค่นี้ คุณ ส.ท่านนี้ เมื่อเล่ามาแค่นี้ก็คงพอรู้ว่าเป็นใคร 

 

หากอยากรู้ว่าท่านเป็นใคร ผมจะบอกชื่อได้ทาง pm เท่านั้น กล้ายืนยันว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงต่อหน้าคนหลายคน มีการสอบถามโต้ตอบมากกว่าที่ลงไว้มากมายแต่กลัวจะเข้าใจว่าเขียนเชียร์ และตอนนี้ก็มีหลายท่านกว้านเก็บพระของหลวงพ่อแล้ว

 

เรื่องปาฏิหาริย์ของท่านที่แปลกๆเคยเกิดขึ้นอีกหลายอย่างและบางอย่างจะพบเจอที่ไหนยาก ที่ผมเว้นช่วงการเขียนเรื่องของท่านลงในเวป เพราะบางคนก็เข้าใจไปว่าเขียนเพื่อโปรโมทพระในมือเท่านั้นทั้งๆที่อยากนำเรื่องแปลกๆมาเล่าสู่กันฟัง เพราะได้เข้าไปคลุกคลีกับคนรุ่นเก่าที่อยู่ในเหตุการณ์จริงยุคนั้น อยากแนะนำให้เก็บไว้บ้างหากใช้อะไรบูชาแล้วยังไม่ได้ผล อย่ารอให้กระแสแรงแล้ววิ่งไล่เก็บ อย่ารอให้แพงกว่านี้ 

 

ยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมาแม้จะไม่มีใครทำหนังสือเป็นมาตรฐานของท่านออกมาในวงการพระ มีแต่เรื่องราวเก่าๆที่เคยลงตีพิมพ์ในหนังสือยุคก่อนเล็กๆน้อยๆ คนยังรับรู้ข้อมูลได้น้อยมาก แต่วัตถุมงคลของท่านยังมีราคาแพงแล้วในวันนี้ เมื่อหนังสือมาตรฐานออกมาแล้ว มีหลักฐานอ้างอิงได้ชัดเจน มีพยานบุคลพยานวัตถุชัดเจน สิ่งที่ท่านตั้งใจทำไว้คงมีการปรับราคาอีกไม่น้อย ของบางอย่างยังพอหาได้ในวันนี้ อย่ารอให้มีของโคลนนิ่งปะปนออกมาจนยากจะพิจารณาแล้วจึงตัดสินใจ 

 

เรื่องมีผู้ตรวจสอบพลังของพระหลวงพ่ออภิชิโตนั้น เคยเกิดมาแล้วหลายครั้งเพราะคนอยากรู้อยากทดสอบมีไม่น้อย เกจิบางท่านถึงกับหงายหลังหน้ามืด และเกจิบางท่านวางพระลงในที่อันควรพร้อมก้มกราบขอขมา เรื่องเหล่านี้ใช่ว่าจะไม่มีคนรู้มาก่อน แต่เรื่องบางอย่างก็ไม่สมควรนำมาพูดเพราะจะเกิดแรงกระทบต่อบุคคลที่สาม 

 

การนำข้อสอบระดับปริญญาเอกไปให้นักศึกษาปริญญาตรีทำ มันอาจยากกว่าจะเข้าใจได้ในเวลาจำกัด ยิ่งเมื่อเด็กมัธยมนั่งมองก็เข้าใจไปคนละทาง เหมือนสมการเคมีสั้นๆแค่หนึ่งบรรทัดที่เขียนไว้บนกระดานหน้าห้อง ใครๆก็มองเห็น คนที่เข้าใจในระดับเดียวกันก็รู้ว่ามันเป็นสูตรที่ทำให้เกิดประโยชน์ได้มหาศาล ใจคนอ่านก็ยกย่องคนคิดสูตรนั้นว่าไม่ธรรมดา คนที่ไต่ระดับไม่ถึงเมื่ออ่านไปก็ยังสงสัยไปว่าเขียนอะไรไว้รกกระดาน หากไม่ศรัทธาก็ปล่อยวาง อย่าไปเสาะหา อย่านำมาบูชา ก็ไม่หนักคอและจะไม่แคลงใจหรือเกิดข้อสงสัยว่าดีจริงตามคำร่ำลือหรือไม่ หลวงพ่ออภิชิโตเองก็ไม่ได้บังคบว่าต้องเชื่อว่าของท่านดี ท่านห้ามโฆษณาว่าเป็นของดีด้วยซ้ำไป หลังปี 2513 มาแล้ว ท่านเก็บตัวไม่รับนิมนต์ไปข้างนอก เพราะเบื่อสังคมมนุษย์นี่แหละ

 

เรื่องพระเครื่องของหลวงพ่ออภิชิโตนั้น ยังได้มีผู้นำไปสอบถามพระปฏิบัติสายกองทัพธรรมภาคอีสานอีกหลายท่าน แต่บางเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น เมื่อไม่ได้คุยกับผู้นำไปทดสอบด้วยตนเอง เพียงแต่ได้ยินมาจึงไม่อาจยืนยันได้เต็มร้อย จะขอนำเอาเฉพาะที่คุยกับคนอยู่ในเหตุการณ์จริงมาลงไว้เท่านั้น และก็ไม่ได้จะประโคมข่าวให้เป็นกระแสแต่อย่างใด เพราะของจริงก็ต้องมีผลรับรู้ได้ด้วยตนเองสำหรับคนที่มีศรัทธา 

 

ที่ภูทอก จ.หนองคายมีพระอาวุโสผู้ปฏิบัติดีอยู่อีกองค์หนึ่งซึ่งผมเองก็ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว แต่มีคนที่รู้จักท่านและนับถือในวัตรปฏิบัติของหลวงปู่แยง เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน เมื่อเขามีโอกาสได้ไปที่ภูทอกในวันหนึ่งเมื่อไม่นานนี้ หลังจากกราบท่านเจ้าอาวาสแล้ว ก็หยิบพระสมเด็จรุ่นสุดท้ายของหลวงพ่ออภิชิโตออกมายื่นให้หลวงปู่แยงดูพร้อมถามว่า ท่านรู้จักหลวงพ่ออภิชิโตหรือไม่ ซึ่งหลวงปู่ก็ตอบว่าไม่รู้จัก ไม่เคยได้ยินชื่อเลย เจ้าของพระจึงอยากรู้ว่าพระสมเด็จองค์นั้นดีจริงหรือไม่ มีพุทธคุณหรือเปล่า เพราะพระเกจิที่ตนนับถือก็ยังไม่เคยรู้จักชื่อของหลวงพ่ออภิชิโตมาก่อนเช่นกัน 

 

เมื่อขอให้หลวงปู่แยงตรวจสอบพุทธคุณพระองค์นั้น ก็ได้รับการอนุเคราะห์ด้วยดี หลังจากหนึ่งอึดใจผ่านไปที่หลวงปู่นิ่งเงียบเฉยพร้อมกับพระในกำมือ ท่านก็บอกว่า ”พระนี่ใครทำไว้นะถึงได้แรงมากเหลือเกิน ของอย่างนี้ไม่คิดว่าจะมีคนสร้างได้ คนที่ทำได้ระดับนี้ต้องเป็น.........” ซึ่งผมคงไม่กล้าจาบจ้วงเอาชื่อหลวงปู่ที่เป็นพระปฏิบัติระดับสูงมาเล่าเรื่อยเปื่อยโดยไม่ได้พูดคุยกับเจ้าตัวที่ไปมาแน่นอน แค่เล่าไว้เป็นบันทึกอีกบทหนึ่ง ไม่ได้ต้องการชี้นำอะไร

 

เครดิต 

หนุ่มเมืองแกลง

#ลาดบัวขาว2485 หลวงพ่อชาญณรงค์อภิชิโต