ตำนานม้าเสพนางสมัยโบราณเล่าว่า มีเจ้าคอกม้าทางเหนือมีลูกสาวแสนสวยเป็นที่หมายปองแก่ชายหนุ่มทั้งหลายที่ได้พบเจอ หญิงสาวนางนี้หน้าตาเนื้อตัวสวยงามจนไม่มีที่ติ เป็นที่หลงไหลของชายหนุ่มทุกสารทิศที่เดินทางผ่านมาพบเจอ หญิงสาวยังครองพรมจรรย์ ไม่ตกลงปลงใจรับชอบพอกับใคร อยู่มาวันหนึ่งหญิงสาวได้เดินชมม้าในคอกม้าของบิดา เมื่อเจอม้าเพศผู้ตัวหนึ่งซึ่งมีรูปร่างสง่าผ่าเผยโดนเด่นโดนตากว่าม้าตัวใดที่นางเคยพบเจอมา จึงเกิดความรักหลงไหลในม้าแสนสง่างามตัวนั้น ทำให้นางเคล้าคลอเคลียกับม้าหนุ่มอยู่ทุกวันร่ำไปจนได้เสียกันกับม้าหนุ่มตัวนั้น นางไปที่คอกม้าและอยู่ในนั้นบ่อยครั้งจนบิดาเกิดความสงสัยว่าลูกสาวติดใจหลงไหลอะไรในม้าพวกนั้นจึงแอบไปดูเจอลูกสาวของตัวเองเสพสมกับม้าหนุ่มพอเห็นดังนั้นจึงเกิดความโมโหเป็นอย่างมากเพราะกลัวจะเกิดความอับอายถ้าเรื่องราวรู้เข้าไปถึงหูชาวบ้าน จึงได้ฆ่าม้าหนุ่มตัวนั้นเสีย ลูกสาวของตนที่เกิดใจรักและผูกพันธ์กับม้าหนุ่มตัวนั้นเกิดความเสียอกเสียใจเป็นอย่างมากจึงได้ฆ่าตัวตายตามม้านั้นไป จึงเกิดเป็นเรื่องราวความรักอันแสนเจ็บปวดที่ครูบาอาจารย์นำเอาเคล็ดความเสน่ห์หาที่แม้กระทั่งหญิงงามยังหลงมนต์มาเสพสมกับกับม้าถึงกระทั่งยอมตายตกตามกันไปมาสร้างเป็นสุดยอดเครื่องรางมหาเสน่ห์ม้าเสพนางนี้ขึ้น มีมาตั้งแต่โบราณหลายร้อยปี ม้าเสพนางตนนี้เป็นของตาสีแกเป็นคนลาวโดยชาติกำเนิด แต่บั้นปลายชีวิตมามีเมียคนสุดท้ายเป็นคนไทยจึงได้อาศัยอยู่ในประเทศไทยจนชราและเสียชีวิตไป ชาวบ้านและลูกหลานต่างรู้ว่าตาสีมีของดีทางมหาเสน่ห์ที่แรงมากนั่นก็คือม้าเสพนางตนนี้ จนมีลูกมีเมียอยู่ฝั่งลาวและไทยนับไม่ถ้วนจนจำชื่อไม่ได้ ไม่ใช่แค่ 4-5 คน แต่ตาสีเคยใช้ชีวิตร่วมจนถึงเรียกว่าเมียมาแล้วกว่า 30-40 คน มีลูกกี่คนจนนับไม่ถ้วน ตาสีเล่าว่าได้มาเสพนางนี้มาจากครูบาทางฝั่งลาวเมื่อหลายสิบปีก่อนก็พกติดตัวเพียงชิ้นเดียว บังเอิญว่าไปไหนมักถูกตาต้องใจเพศตรงข้ามโดยที่ไม่ต้องทำอะไร ตาสียังได้บอกว่าม้าเสพนางนี้ให้ถวายหญ้าถวายน้ำเป็นบางครั้งยิ่งจะทำให้ออกฤทธิ์รุนแรงทางด้านมหาเสน่ห์ดึงดูดใจคนมากยิ่งขึ้น จนปัจจุบันนี้ตาสีได้เสียชีวิตแล้วทางร้านจึงได้บูชามาจากญาติของตาสีเพื่อมานำเสนอผู้ที่สนใจต่อไป เหมาะกับคนที่เน้นทางมหาเสน่ห์สุดๆ